เปิดงานแล้ว “ยี่เป็งม่วนใจ๋ ลอยกระทงไทย-ล้านนา” ที่วัดสุทธิวราราม สืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีที่สำคัญ สอดประสานวัฒนธรรมท้องถิ่นทางเหนือ กับภาคกลางได้อย่างลงตัว ด้วยการจุดประทีปถวายเป็นพุทธบูชา
ร้อยตำรวจโท ดร. มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน งาน“ยี่เป็งม่วนใจ๋ ลอยกระทงไทย-ล้านนา”โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ย่านถนนเจริญกรุง และริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสะพานตากสินจนถึงถนนจันทน์ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
ร้อยตำรวจโท ดร. มนัส กล่าวว่า ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีอันสำคัญยิ่งของประเทศไทย ซึ่งวัดสุทธิวรารามได้จัดงาน “ยี่เป็งม่วนใจ๋ ลอยกระทงไทย-ล้านนา” นำความเป็นเหนือมาอยู่ในกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งประเพณีที่งดงาม และต้องมีการสืบสานให้อยู่คู่กับประเทศไทยไปตราบนานเท่านาน ให้ถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน
ซึ่งประเพณีลอยกระทงนั้น คนไทยให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการขอขมาพระแม่คงคา เป็นการชำระล้างจิตใจและขอโทษขอขมาพระแม่คงคา จึงฝากให้ชาวกรุงเทพมหานครและชาวไทยที่อยู่ใกล้วัดสุทธิวราราม ขอให้เข้ามาเที่ยวชมงานจนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้เป็นการเป็นการผสมผสานกันระหว่างศิลปะวัฒนธรรมภาคเหนือกับกรุงเทพมหานคร และยังเป็นสิ่งสำคัญของพุทธศาสนิกชน ที่ได้จุดประทีปถวายเป็นพุทธบูชา
ทั้งนี้ ภายในงาน“ยี่เป็งม่วนใจ๋ ลอยกระทงไทย-ล้านนา” มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนา ชม ชิม ช้อปอาหารเหนือแบบขันโตก ผลิตภัณฑ์ชุมชน การบูชาประทีปโคมไฟ การเทศน์มหาชาติล้านนา และการละเล่นอื่นๆ จึงเป็นบรรยากาศงานลอยกระทงที่ยิ่งใหญ่ ตระการตาด้วยการประดับโคมไฟที่งดงาม ทั้งถนนเจริญกรุง และแสงเทียนจากกระทงที่ลอยบนแม่น้ำเจ้าพระยา
ด้านพระสุธีรัตนบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม ย้ำว่าการจัดงานในครั้งนี้ เป็นประเพณีทางเหนือที่มีการจุดไฟส่องสว่าง เป็นการบูชาพระเกศแก้วจุฬามณี ส่วนการจุดไฟหน้าบ้านก็มีความเชื่อว่า เป็นประทีปส่องทางให้กับผู้ที่ล่วงลับ ได้เห็นแสงสว่างได้รับบุญกุศลที่ลูกหลานอุทิศ
จึงขอเชิญชวนทุกท่าน ให้ว่าร่วมชมงาน “ยี่เป็งม่วนใจ๋ ลอยกระทงไทย-ล้านนา” เพราะเป็นการยกเชียงใหม่ล้านนามาอยู่ที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้จุดหลักกของงานก็จะมีที่วัดสุทธิวราราม และวัดยานนาวา เป็นการสืบสานประเพณีของไทย และสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชน ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 พฤจิกายนนี้