นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว มอบหมายให้ นายโอวาท ยิ่งลาภ ผู้อำนวยการกองพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว เข้าร่วมกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร ระหว่างวันที่ 23-24 เมษายน 2567 ณ จังหวัดเชียงราย
โดยภายหลังการนำสื่อมวลชนดูงาน นายโอวาท ยิ่งลาภ ผู้อำนวยการกองพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว เปิดเผยว่า “ข้าว” นับเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ทั้งในด้านการบริโภคและการเป็นสินค้าเกษตรส่งออกสำคัญต่อเศรษฐกิจภูมิภาค เนื่องจากเป็นพืชเกษตรหลักของประเทศที่ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกมากที่สุด โดยคิดเป็นร้อยละ 45.2 ของพื้นที่การเกษตรทั้งหมด
ของประเทศ
ในฐานะที่กองพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว เป็นหน่วยงานในสังกัดกรมการข้าว มีบทบาทในการดูแลภารกิจด้านการตลาดสินค้าข้าวของกรมการข้าว และเชื่อมโยงตลาดสินค้าข้าวระหว่างพี่น้องเกษตรกร ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีนโยบายส่งเสริมพัฒนาให้ข้าว เป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญ ที่ทำให้อาหารไทย เป็นหนึ่งใน Soft Power นอกจากข้าวจะเป็นอาหารจานหลักแล้ว ยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องปรุงและขนมในรูปแบบต่าง ๆ โดยในแต่ละพื้นที่ของไทย ได้นำเอาข้าวมาเป็นส่วนหนึ่งในวิถีการดำรงชีวิต กลายเป็นวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี และวิถีชีวิตของคนไทย
การผลักดัน Soft Power ข้าวไทย เป็นนโยบายที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมการข้าว โดย กองพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของคุณค่าและพลังของ Soft Power รวมทั้งมีพันธกิจในการส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านการเพิ่มมูลค่าของข้าวไทย ให้เกิดความยั่งยืนในเชิงพาณิชย์ ในการดำเนินการจะเน้นทั้งในด้านของการประชาสัมพันธ์ข้าว มีการส่งเสริมให้เกิดการใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ ในการสร้างผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าวคุณภาพของไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ที่จะช่วยต่อยอดการผลิตข้าว เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและผลิตภัณฑ์ข้าวเกิดการพัฒนาและยกระดับกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตข้าวให้ได้รับประโยชน์เพิ่มมากขึ้น
ผู้อำนวยการกองพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว กล่าวอีกว่า สำหรับในปีงบประมาณ 2568 กองพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว ได้ดำเนินนโยบายเพื่อเพิ่มมูลค่าจากการแปรรูปสินค้าข้าวไทย ภายใต้แผนงานสำคัญ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า โดยมีเป้าหมายพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าว เพื่อเพิ่มความหลากหลายและตอบสนองความต้องการของตลาด ยังมีการต่อยอดบรรจุภัณฑ์ ด้วยการปรับปรุงและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าว เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและเพิ่มมูลค่าของสินค้า เพื่อสนับสนุนการผลิตและเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์จากข้าว รวมถึงการให้คำแนะนำด้านมาตรฐาน GMP พร้อมสนับสนุนโรงสีให้เกิดการปฏิบัติตามมาตรฐาน GMP เพื่อยกระดับคุณภาพการผลิตและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
นายปิยะพันธ์ ศรีคุ้ม ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวเชียงราย กล่าวว่า ศูนย์วิจัยข้าวเชียงราย เป็นหน่วยงานสังกัดกองวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว รับผิดชอบด้านการวิจัยและพัฒนาข้าวในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและพะเยา และทำหน้าที่ผู้แทนกรมการข้าวในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยมีภารกิจหลักด้านการศึกษาวิจัยด้านการปรับปรุงพันธุ์ข้าว เทคโนโลยีการผลิตข้าว การอารักขาข้าว วิทยาการเมล็ดพันธุ์ วิทยาการก่อนและหลังการเก็บเกี่ยวข้าว การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว การถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าว พร้อมทั้งปฏิบัติงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ งานนโยบายที่สำคัญของกรมการข้าวของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐบาล สามารถช่วยให้ชาวนาเพิ่มผลผลิตข้าวได้เพิ่มมากขึ้น
นายสมพร ทรินทร์ ประธานศูนย์ข้าวชุมชนข้าวปลอดสารพิษตำบลแม่อ้อ กล่าวว่า ศูนย์ข้าวชุมชนข้าวปลอดสารพิษตำบลแม่อ้อ ตั้งอยู่ เลขที่ 51 หมู่ 3 บ้านแม่แก้วใต้ ตำบลแม่อ้อ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย โดยได้มีการรวมกลุ่มกันมาตั้งแต่ปี 2559 "กลุ่มข้าวปลอดสารพิษตำบลแม่อ้อ" ในปี 2564 ได้ขึ้นทะเบียนศูนย์ข้าวชุมชน ข้าวปลอดสารพิษตำบลแม่อ้อ โดยมีสมาชิก 32 คน พื้นที่ปลูกข้าวทั้งหมด 474 ไร่
"ตั้งแต่การก่อตั้งศูนย์ข้าวชุมชน ทางกลุ่มได้รับการส่งเสริมพัฒนา และสนับสนุนจากกรมการข้าวและศูนย์วิจัยข้าวเชียงรายเป็นอย่างดี ทำให้เกิดการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว ขาวดอกมะลิ105 จำนวน 1 ตัน กข15 จำนวน 2 ตัน และคัดเลือกรวงข้าวเพื่อทำพันธุ์เอง ให้กับสมาชิกในกลุ่ม และจำหน่าย โดยเมล็ดพันธุ์ผ่านการรับรองคุณภาพจากศูนย์วิจัยข้าวเชียงราย การเป็นศูนย์ข้าวชุมชน สามารถนำประโยชน์สุขมาสู่สมาชิก นอกจากจะเป็นการแก้ไขปัญหาขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีแล้วยังทำให้ชาวนาผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวมีรายได้เพิ่มขึ้น จากการจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวแทนการจำหน่ายข้าวในรูปแบบของข้าวเปลือกทั่วไป อีกทั้งยังมีการแปรรูปข้าวที่ปลูกในรูปแบบข้าวปลอดสารพิษจำหน่าย เป็นการเพิ่มมูลค่า ยกระดับราคาข้าวให้เพิ่มสูงขึ้น สมาชิกมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เป็นการพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนด้วย” นายสมพร กล่าว