นายคมสันต์ พิริยะพาน ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มสุรากลั่นฐิตินันท์ หมู่ที่ 11 ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ด้วยพื้นที่ตำบลดงมะดะ อ.แม่ลาว เป็นพื้นที่เกษตรกรรม มีการทำนาปลูกข้าวเหนียวเป็นหลัก จึงมีแนวคิดที่จะส่งเสริมให้เกิดการแปรรูปผลผลิตข้าวเหนียวที่ผลิตได้ให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ปี 2555 จึงได้ชวนสมาชิกในครอบครัวรวมตัวกันขอจดทะเบียนจัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มสุรากลั่นฐิตินันท์ขึ้น มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของคนในท้องถิ่นให้มีการเติบโต จากการใช้ผลผลิตข้าวเหนียวที่มีมากในพื้นที่มาแปรรูปเป็นสุรากลั่น เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้แก่ชาวนา รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในชุมชนให้มากขึ้น
จากการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องด้วยความมุ่งมั่น และพัฒนาสูตรการผลิตที่ผ่านกรรมวิธีการทำสุราที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น และใช้เครื่องมือเครื่องจักรที่ทันสมัย ทำให้สุรากลั่นจากข้าวที่ผลิตขึ้น ได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี จึงมีการเพิ่มไลน์การผลิต จากเดิมที่เน้นการผลิตสุรากลั่นจากข้าว มาสู่ผลไม้ชนิดอื่น ๆ ที่มากในท้องถิ่น อาทิ มะม่วง สัปปะรด บ๊วย รวมถึงข้าวโพด
นายคมสันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จุดเด่นของสุรากลั่นฐิตินันท์ว่า เน้นการใช้ข้าวเหนียวเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต ทำให้ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร ผ่านกรรมวิธีการทำสุราที่สืบทอดกันมาจากรุ่นต่อรุ่น ใช้เครื่องมือที่ผ่านการปรับปรุงให้ทันสมัยกว่าเดิม วิธีทำเริ่มจากนำข้าวเหนียวไปแช่ในถังทิ้งไว้ 1 คืน ก่อนนำมานึ่งจากนั้นนำไปหมักบ่มพร้อมกับก้อนเหล้า ทิ้งไว้ในถัง 7 – 15 วัน จนข้าวตกตะกอน จากนั้นนำไปกลั่นด้วยไอน้ำ ผ่านเครื่องกรอง ก่อนบรรจุเป็นขวดออกมาวางจำหน่าย
ปัจจุบันโรงกลั่นสุราฐิตินันท์ ได้ผลิตสินค้าออกมาในหลายรูปแบบ เช่น “สุรากลั่นวันวาน” “สุราข้าว” ใส่บรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม รองรับผู้บริโภคที่ชื่นชอบในรสชาติของสุรากลั่น ภายใต้แบรนด์ “MalongZe” และ “Langmaze” ที่กำลังยื่นขออนุญาตรูปแบบบรรจุภัณฑ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ มีการจำหน่ายผ่านทางออนไลน์ และจำหน่ายผ่านตัวแทนร้านค้าในกรุงเทพฯ รวมถึงการออกบู๊ทงานแสดงสินค้าต่าง ๆ
ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าหมาย คืออยากนำสุรากลั่นพื้นบ้านออกจำหน่ายไปยังต่างประเทศ จากที่ผ่านมามีลูกค้าต่างชาติชื่นชอบสุรากลั่นจากโรงกลั่นสุราฐิตินันท์ โดยเฉพาะสุรากลั่นจากข้าวเหนียว และผลไม้ อย่าง มะม่วง สับปะรด จึงได้วางเป้าหมายที่จะพัฒนาช่องทางการจำหน่ายไปยังตลาดประเทศให้ได้