กรมการข้าว นำสื่อมวลชนศึกษาดูงาน ศูนย์ข้าวชุมชน ณ ศูนย์วิสาหกิจชุมชนทำนาประณีตข้าวอินทรีย์ศรีสำราญ พื้นที่ ต.ศรีสำราญ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ และ วิสาหกิจชุมชนบ้านหินกอง ต.ป่ามะนาว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 4 – 5 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา
ศูนย์ข้าวชุมชนเป็นองค์กรชาวนาที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้การสนับสนุนจัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา มีบทบาทหน้าที่ในการผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีในชุมชน เป็นศูนย์เรียนรู้ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวรวมทั้งเป็นศูนย์กลางการพัฒนาข้าวของชุมชน
นายมงคล จันทร์ประทัด ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการผลิตข้าว กล่าวว่า กรมการข้าวได้ดำเนินงานโครงการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชน โดยกำหนดเป้าหมายเพื่อพัฒนาศักยภาพของศูนย์ข้าวชุมชนให้สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวให้เพียงพอต่อความต้องการของชาวนาในชุมชนและของประเทศ โดยเน้นศูนย์ข้าวชุมชนที่เข้าร่วมโครงการให้สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี มีการส่งเสริมแลกเปลี่ยนแนวทางในการพัฒนากิจกรรมและการดำเนินงานต่าง ๆ ร่วมกันระหว่างกรมการข้าวและศูนย์ข้าวชุมชน
นายทรงศิริ นราพงษ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทำนาประณีตข้าวอินทรีย์ศรีสำราญ กล่าวว่า จุดเริ่มต้น เกิดจาก มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ร่วมกับ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำแพงแสน และจังหวัดชัยภูมิ โดยนาย พรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิในขณะนั้น ได้มอบหมาย เกษตรจังหวัดชัยภูมิคัดเลือกเป้าหมายให้ ตำบลศรีสำราญ เป็นตำบลนำร่องโครงการทำนาแบบประณีต มีนาย ทรงศิริ นราพงษ์ (นายกองค์การบริหารส่วนตำบลศรีสำราญ) เป็นผู้รวบรวมเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในตำบล จำนวน 21 ราย เข้าร่วมโครงการทำนาแบบประณีต SRI ณ แปลงนา
กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทำนาประณีตข้าวอินทรีย์ศรีสำราญ เป็นวิสาหกิจชุมชนตัวอย่างเรื่องข้าวของจังหวัดชัยภูมิ มีจำนวนสมาชิก 117 ราย ผลผลิต 400 กิโลกรัมต่อไร่ ทางวิสาหกิจได้แจกจ่ายและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ให้กับสมาชิกและรับซื้อข้าวจากสมาชิกทั้งหมด สมาชิกในกลุ่มต้องขายข้าวให้กับวิสาหกิจนี้เท่านั้น ด้านราคานั้นให้ราคาสูงกว่าราคาตลาดทั่วไป สำหรับพันธุ์ข้าวที่สมาชิกปลูกคือข้าวมะลิ 105 และ ไรซ์เบอร์รี่ ทางวิสาหกิจมีเครื่องตรวจสอบความชื้น คุณภาพข้าว เครื่องคัดแยกเมล็ด ที่ทันสมัย มีลานตาก และเครื่องสีข้าว สามารถรับซื้อข้าวได้วันละ 3.3 ตัน กำลังการสี 500 กิโลกรัมต่อชั่วโมง
นอกจากนี้ ทางวิสาหกิจยังมีการจำหน่ายข้าวสาร ภายใต้แบรนด์ “ศรีสำราญ” ที่ได้ขยายตลาด พร้อมมีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่าน แม็คโคร ร้านโชว์ห่วย โรงพยาบาล หน่วยงานรัฐ ในจังหวัดชัยภูมิและพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงขายออนไลน์ ช่วยสร้างรายได้ให้กับวิสาหกิจและสามารถกระจายรายได้สู่กลุ่มสมาชิก ซึ่งการผลิตข้าวของชุมชนได้ผลกำไรดีพอที่เลี้ยงครอบครัวของคนในชุมชนได้ กรมการข้าว ยังได้สนับสนุนในเรื่องของรถเกี่ยวนวดข้าวให้เป็นของวิสาหกิจ มีการบริหารจัดการแบบชุมชน มีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพใช้ภายในกลุ่ม การใช้ชีวภัณฑ์ในการกำจัดศัตรูข้าวหรือพืชผักอื่นๆ ลานตากข้าว ยุ้งฉางสำหรับเก็บข้าวเปลือกที่ตากแห้งแล้ว มีโรงสีข้าว มีเครื่องชั่งน้ำหนักรถบรรทุก อีกด้วย
นายจิรพัท เดชเอกอนันต์ ประธานกลุ่ม วิสาหกิจชุมชนบ้านหินกอง ต.ป่ามะนาว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น เป็นอีกหนึ่งชุมชนที่ได้มีดำเนินกิจกรรมตามโครงการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชน ของกรมการข้าว กล่าวว่า ปัจจุบัน วิสาหกิจบ้านหินกอง มีจำนวนสมาชิกในกลุ่มศูนย์ข้าว 43 คน ข้าวที่ปลูก เป็น ข้าวหอมมะลิ 105 มีการผลิตข้าวเปลือกสำหรับเป็นเมล็ดพันธุ์ และผลิตข้าวสารแปรรูป ที่ทางกลุ่มได้รับ โรงสีข้าวไฟฟ้า ที่มีกำลังการผลิตมากถึง 600 กิโลกรัม ต่อวัน
สมาชิกในกลุ่มยังได้ต่อยอดเป็นการผลิตข้าวสารเพื่อจำหน่าย ที่ในปัจจุบันจำหน่ายในพื้นที่ ตลาดออนไลน์ อีกทั้งยังมี รำข้าว แกลบ(ใช้สำหรับโรงไฟฟ้า) การอัดฟางหลังการเก็บเกี่ยว ที่ทางกลุ่มได้ต่อยอด เพิ่มมูลค่าจากข้าวให้ได้ประโยชน์มากขึ้น และในอนาคตมีการวางแผนการผลิตข้าวสาร ข้าวแปรรูปให้มากขึ้นด้วย
ทั้งนี้จากข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2566 ศูนย์ข้าวชุมชนที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการข้าวมีจำนวน 4,327 ศูนย์ใน 75 จังหวัดทั่วประเทศ โดยศูนย์ข้าวชุมชนดังกล่าวที่มีการจัดตั้งไว้แล้วนั้นยังคงมีการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในลักษณะการบริหารจัดการแบบชุมชนมีส่วนร่วม “โดยชาวนา เพื่อชาวนา” ภายใต้การกำกับดูแลโดยกรมการข้าว ที่ได้วางระบบร่วมกันกับผู้แทนของศูนย์ข้าวชุมชน โดยจัดตั้งคณะกรรมการในการบริหารศูนย์ข้าวชุมชนในทุกระดับและมีการสร้างเครือข่ายในรูปแบบของคณะกรรมการได้แก่ระดับศูนย์ จังหวัด เขต และประเทศ กล่าวได้ว่าศูนย์ข้าวชุมชนเป็นองค์กรตัวแทนของชาวนาทั้งประเทศอย่างแท้จริง