สวนสุนันทา เปิดตัวแบรนด์ “Bella Carino (เบลล่า คาริโน่)” ผลงานวิจัยยกระดับพืชสมุนไพรท้องถิ่นสู่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ชะลอวัย ลดรอยเหี่ยวย่น

7 เมษายน 66) รองศาสตราจารย์ ดร.ฤๅเดช เกิดวิชัย นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เป็นประธานในพิธี “เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Bella Carino (เบลล่า คาริโน่) การถ่ายทอดเทคโนโลยี และแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมนำไปใช้ประโยชน์สู่เชิงพาณิชย์” จัดโดยสถาบันวิจัยและพัฒนา เพื่อเผยแพร่ผลสำเร็จของงานวิจัยและนวัตกรรมที่ต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ ขยายผลให้เป็นที่รู้จักต่อสาธารณะชนมากขึ้น โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา คณะผู้บริหาร นักวิจัย คณาจารย์ จากสถาบันวิจัยและพัฒนา และผู้แทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุมช่อแก้ว มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

รองศาสตราจารย์ ดร.ฤๅเดช เกิดวิชัย นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เปิดเผยว่า การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Bella Carino (เบลล่า คาริโน่) การถ่ายทอดเทคโนโลยี และแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมนำไปใช้ประโยชน์สู่เชิงพาณิชย์ ในครั้งนี้ เป็นการนำผลสำเร็จของงานวิจัยที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการสร้างรายได้แก่ชุมชน โดยนำเอาพืชสมุนไพรในท้องถิ่นมาศึกษาคุณสมบัติที่ช่วยบำรุงผิว ชะลอวัย ลดรอยเหี่ยวย่น จนได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาตรฐาน มีความทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และที่สำคัญได้ยื่นขอรับสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร นับเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มแรกที่สามารถนำผลงานนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากงานวิจัย สามารถต่อยอดสร้างมูลค่าในเชิงพาณิชย์ 
ปัจจุบันมีผลงานวิจัยและนวัตกรรมของมหาวิทยาลัย ที่ได้ยื่นจดสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร มากกว่า 800 ผลงาน และหลายผลงานได้รับรางวัลในเวทีระดับนานาชาติ ซึ่งเกิดจากการขับเคลื่อนของสถาบันวิจัยและพัฒนา และนักวิจัยของคณะวิทยาลัยต่างๆ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่สิ่งสำคัญคือการได้นำผลงานนวัตกรรมต่างๆ เหล่านี้ ไปต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นการผลิตและจำหน่ายเอง รวมไปถึงการอนุญาตให้ผู้ประกอบการใช้สิทธิ์จากผลงานวิจัยและนวัตกรรมจากมหาวิทยาลัย ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยและงานนวัตกรรมต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ ยกระดับผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับและเป็นการเผยแพร่ผลงานของมหาวิทยาลัยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น 
ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กล่าวว่า การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Bella Carino (เบลล่า คาริโน่) ในครั้งนี้ มี 3 ผลิตภัณฑ์ ดังนี้ 1.มัชรูม เซรั่ม 2.ครีมบำรุงผิวตอนกลางคืนดอกทองกวาว 3.ครีมบำรุงผิวตอนกลางคืนสาหร่ายพวงองุ่น โดย ดร.นรินทร์ กากะทุม นักวิจัย จากวิทยาลัยสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ และได้โอนสิทธิขอรับสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตรให้กับมหาวิทยาลัย เพื่อนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมดังกล่าวไปใช้ประโยชน์และเผยแพร่ขยายผลให้เป็นที่รู้จักต่อสาธารณะชนมากขึ้น ในโอกาสนี้จึงได้จัดให้มีพิธีลงนาม หนังสือสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิบัตรดังกล่าวแก่ผู้ประกอบการ ได้แก่ นายจักรินทร์ โพธิ์พรม ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกล้วยหอมทองบ้านโคก (กระดาษกล้วยหอมทอง) และนางเขียว จอดนอก ประธานวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรน้ำหมักเอนไซม์สมุนไพรเพื่อสุขภาพ (ผลิตภัณฑ์คอมบูชา kombucha) สามารถนำเทคโนโลยีจากงานวิจัยไปต่อยอดขยายผลสร้างรายได้และความเข้มแข็งให้กับสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจและชุมชนของตนเองต่อไปในอนาคต
“มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ผลักดันให้อาจารย์รักในงานวิจัย พัฒนาองค์ความรู้สู่นักศึกษา สร้างนักศึกษาให้เป็นมืออาชีพ และต้องขยายผลงานวิจัยให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน ต่อยอดผลผลิตในท้องถิ่นให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างอาชีพและรายได้ เกิดการพัฒนาชุมชนเข้มแข้ง ตามเป้าหมายของสวนสุนันทาที่ว่างานวิจัยของเราต้องไม่ขึ้นหิ้งอีกต่อไป” รองศาสตราจารย์ ดร.ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ กล่าว
ดร.นรินทร์ กากะทุม กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Bella Carino (เบลล่า คาริโน่) ทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ เกิดขึ้นจากความต้องการที่จะพัฒนาพืชท้องถิ่นของแต่ละพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ได้มีผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง ไม่ซ้ำใคร เพิ่มมูลค่าให้กับพืชท้องถิ่น และใช้วัตถุดิบที่เหลือใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างเช่น มัชรูม เซรั่ม (เซรั่มเห็ดสามอย่าง) ทำมาจากเห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดภูฏาน เห็ดหอม จากฟาร์มเกษตรอินทรีย์ ซึ่งทั่วไปเขาจะเก็บแต่ดอกเห็ดไปใช้ประโยชน์ ส่วนโคนเห็ดจะทิ้ง จากการวิจัยพบว่ามีทั้งโปรตีน คอลลาเจน สารต้านอนุมูลอิสระและคุณสมบัติต้านการอักเสบ สามารถพัฒนาเป็นเซรั่มเห็ดที่มีคุณสมบัติช่วยปกป้องและบำรุงผิวหน้า ส่วนครีมบำรุงผิวตอนกลางคืนดอกทองกวาว (สลีปปิงมาสก์ จากสารสกัดดอกทองกวาว) เป็นต้นไม้ประจำจังหวัดอุดรธานี ช่วง ก.พ.-มี.ค. ของทุกปีจะออกดอกจำนวนมาก ร่วงโรยไม่ได้ใช้ประโยชน์ จึงได้นำมาวิจัยพบว่าดอกทองกวาวมีฤทธิ์ยับยั้งอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ รอยด่างดำที่เกิดจากรังสี UV เชื้อแบคทีเรียต่างๆ จึงพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวตอนกลางคืนดอกทองกวาว ช่วยเรื่องปกป้องการสูญเสียน้ำ คืนความชุ่มชื่น และลดริ้วรอยบนใบหน้า ตัวสุดท้ายคือ ครีมบำรุงผิวตอนกลางคืนสาหร่ายพวงองุ่น (เอมเมอเริลดสลึปปิ้มาร์กจากสารสกัดสาหร่ายพวงองุ่น) สาหร่ายพวงองุ่นจะนิยมนำมาบริโภคสดที่ต้องกินให้ไว เพราะจะเสียหายง่าย จึงเกิดการสูญเสียบ่อยครั้ง จึงมองว่าทำไงจะลดการสูญเสียและใช้วัตถุดิบนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงได้มาเป็นผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวตอนกลางคืนสาหร่ายพวงองุ่น ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินหลายชนิด ทั้งกรดไขมัน PUFA วิตามินบี2 วิตามินอีและเกลือแร่ มีฤทธิ์ยับยั้งอนุมูลอิสระและเพิ่มความยืดหยุ่นต่อผิวหนัง ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ช่วยปกป้องการสูญเสียน้ำ คืนความชุ่มชื่น และลดริ้วรอยบนใบหน้า อย่างไรก็ตาม ทุกผลิตภัณฑ์ได้ผ่านการวิจัยและทดลองใช้ไม่พบการระคายเคืองต่อผิว จึงได้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบพร้อมจำหน่ายสู่ตลาด 
ทั้งนี้ การพัฒนางานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ จะเน้นการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน นำไปต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเอง ซึ่งตั้งเป้าว่าผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Bella Carino (เบลล่า คาริโน่) จะสามารถวางจำหน่ายได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยเบื้องต้นมีแผนวางจำหน่ายตามศูนย์เรียนรู้ในเครือข่ายของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ทั่วประเทศ แล้วจะขยายผลไปสู่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่อไป
แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า
www.taekpradennews.com
www.taekpradennews.com