วช. ชูผลสำเร็จงานวิจัยชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก พร้อมมอบถุงมือนวัตกรรมฆ่าเชื้อด้วยตัวเองแก่พื้นที่เสี่ยง ที่จังหวัดสงขลา

 ผู้บริหารสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เยี่ยมชมผลสำเร็จงานวิจัยโครงการต้นแบบการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานด้านการวิจัยและนวัตกรรม ด้านการพัฒนาชุมชมและเศรษฐกิจฐานราก ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ พร้อมมอบถุงมือนวัตกรรมจากยางพาราฆ่าเชื้อด้วยตัวเองช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อใช้ในพื้นที่เสี่ยงด่านสะเดา ให้แก่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสงขลา  เทศบาลนครหาดใหญ่ และธนาคารไทยพาณิชย์สาขามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยมี ผศ.นพ.วรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ และคณะ ให้การต้อนรับ

วันที่ 21 มีนาคม 2565 ดร.วิภารัตน์  ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้บริหาร วช. และคณะสื่อมวลชน เยี่ยมชมผลสำเร็จโครงการวิจัย การพัฒนาถุงมือยางธรรมชาติเคลือบน้ำยานาโนอิมัลชันป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด๑๙ เพื่อใช้ในพื้นที่เสี่ยงด่านสะเดา อำเภอสะเดา โครงการประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากพืชกระท่อมเพื่อสุขภาพ และโครงการผลิตเครื่องดื่มฟังก์ชั่นนอล ชนิดผงสำเร็จรูปจากสารสกัดข้าวกล้องสังข์หยดอินทรีย์ สำหรับผู้สูงวัย และวัยทำงานเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก  ภายหลังการเยี่ยมชมผลงานวิจัย

ดร.วิภารัตน์ กล่าวกับว่า วช. ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้เพื่อใช้ประโยชน์ โดยขับเคลื่อนและผลักดันให้เกิดการนำผลงานวิจัย  สิ่งประดิษฐ์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ถ่ายทอดเพื่อพัฒนา แก้ไขปัญหาท้าทายสังคม รวมถึงส่งเสริมสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศเชื่อมโยงกิจกรรมการวิจัยและพัฒนาในการขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมที่ช่วยจัดการห่วงโซ่อุปทาน เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์สินค้า และบริการให้ได้คุณภาพและมาตรฐาน หนุนระบบชุมชนท้องถิ่นให้สามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืนผ่านการบูรณาการความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม เพื่อส่งเสริมและยกระดับให้คุณภาพชีวิตของคนในชุมชนและพื้นที่เป้าหมายดีขึ้น

ผศ.นพ. วรวิทย์  วาณิชย์สุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  กล่าวว่า สำหรับโครงการพัฒนาถุงมือยางธรรมชาติเคลือบน้ำยานาโนอิมัลชันป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้จัดทำถุงมือยางธรรมชาติเคลือบน้ำยานาโนอิมัลชันป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19  เพื่อส่งมอบให้ประชาชน ผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดสงขลา เป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีที่พัฒนาโดยคนไทยและสามารถใช้งานได้จริง และลดปัญหายางพาราซึ่งมีราคาตกต่ำอีกทางหนึ่งด้วย มีคุณสมบัติสามารถฆ่าเชื้อได้ด้วยตนเอง ที่ผลิตจากยางสังเคราะห์เคลือบสูตรน้ำยานาโนอิมัลชัน มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อไวรัสอยู่ได้ประมาณ24 ชั่วโมง มีความปลอดภัยในการใช้งาน ลดการปนเปื้อน และป้องกันการติดเชื้อจากการสัมผัสลงได้เป็นอย่างดี

นายเควิน กอสเนอร์  ผู้บริหาร บริษัท ไฮแคร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  บริษัทผู้ผลิตที่เข้าร่วมโครงการ การพัฒนาถุงมือยางธรรมชาติเคลือบ น้ำยานาโนอิมัลชัน หรือ “ถุงมือป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส Covid-19”  กล่าวว่า สำหรับผลที่ได้จากโครงการนี้ช่วยทำให้ถุงมือยางมีความปลอดภัยในการใช้งาน ลดการปนเปื้อน และป้องกันการติดเชื้อจากการสัมผัสได้ ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ปลูกยางพารา  วัตถุดิบหลักที่มีอยู่มากในภาคใต้ คาดว่าจะเพิ่มเปอร์เซ็นต์การใช้น้ำยางข้นในประเทศ โดยกระบวนการแปรรูปในระดับอุตสาหกรรมการผลิตถุงมือยางไม่น้อยกว่า 10 % ของการใช้น้ำยางข้นแปรรูปในอุตสาหกรรมการผลิตถุงมือเคลือบน้ำยานาโนอิมัลชัน อีกทั้งผลผลิตที่นำมาแปรรูปเป็นถุงมือยังจะช่วยให้ประชาชนมีสุขอนามัยที่ดี ป้องการการติดเชื้อจากโรคระบาดโควิด-19  เป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้จากงานวิจัยไปยังชุมชนท้องถิ่นเพื่อยกระดับการผลิต ช่วยสร้างรายได้ให้ประชาชน และตอบสนองความต้องการพัฒนาของท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น

นอกจากนี้แล้ว  ยังมีโครงการ การประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากพืชกระท่อมเพื่อสุขภาพ ทีมนักวิจัยจาก สถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ มอ. ได้นำองค์ความรู้จากการวิจัยมาผลิตสารสกัดมาตรฐานสมุนไพรเพื่อใช้ในทางการแพทย์ในการผลิตสารสกัดจากพืชกระท่อมให้มีมาตรฐานความปลอดภัย โดยสร้างโรงงานต้นแบบสกัดสารสมุนไพรพืชกระท่อม เป็นยา หรือผลิตภัณฑ์สมุนไพรได้ รวมถึงพัฒนาและศึกษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของตำรับเครื่องดื่มเข้มข้นจากสารสกัดใบพืชกระท่อมรสกาแฟเพื่อส่งเสริมสุขภาพทำให้ร่างกายสดชื่น ตำรับผงแกรนูลจากสารสกัดใบพืชกระท่อมเพื่อใช้เป็นผลิตภัณฑ์ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และตำรับครีมเพื่อใช้บรรเทาอาการปวดข้อเข่า และประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจของผลิตภัณฑ์สมุนไพรพืชกระท่อมเพื่อสุขภาพ


โครงการการผลิตเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลชนิดผงสำเร็จรูปจากสารสกัดข้าวกล้องสังข์หยดอินทรีย์สำหรับผู้สูงวัยและวัยทำงาน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ข้าวสังข์หยดพัทลุงมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันยับยั้งการเกิดโรคจากความเสื่อมของเซลล์ ช่วยชะลอความชราและลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต่าง ๆ ทีมนักวิจัยจากคณะอุตสาหกรรมเกษตรและชีวภาพ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง ร่วมมือกับสถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ มอ. ได้นำข้าวสังข์หยดหักท่อนที่ผ่านมาตรฐานอินทรีย์และ GI มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มฟังก์ชั่นเพื่อสุขภาพ เป็นเครื่องดื่มฟังก์ชันนอล 2 สูตร คือ สูตรเสริมถั่ว 5 สี ที่ช่วยบำรุงร่างกาย มีสารต้านอนุมูลอิสระ และโปรตีนสูงเสริมความแข็งแรงให้แก่กล้ามเนื้อหัวใจ และ สูตรเสริมโพไบโอติค ที่ช่วยในการขับถ่ายที่ปลอดภัย เหมาะกับผู้สูงอายุและวัยทำงาน ซึ่งการแปรรูปข้าวจะมาช่วยแก้ปัญหาไม่มีผู้รับซื้อข้าวตกเกรด และเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวสังข์หยดอินทรีย์ ที่สำคัญช่วยยกระดับมาตรฐานการครองชีพและความเป็นอยู่ของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวสังข์หยดอินทรีย์พัทลุงในชุมชนให้ดีขึ้น

โครงการวิจัยทั้ง 3 โครงการได้รับการสนับสนุนการวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ในแผนงานการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานด้านการวิจัยและนวัตกรรม ภายใต้โครงการต้นแบบการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานด้านการวิจัยและนวัตกรรม ด้านการพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก ในพื้นที่จังหวัดสงขลา

แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า
www.taekpradennews.com
www.taekpradennews.com